วันนี้ (7 ธันวาคม) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย ชัชวาลล์ คงอุดม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ คณะผู้บริหารพรรค รวมถึง สส. และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมกันแสดงพลังประกาศจุดยืน ‘เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ’
พีระพันธุ์ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ นโยบายสำคัญ และทิศทางการทำงานของพรรค โดยเน้นย้ำว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตในหลายด้าน นับตั้งแต่ปัญหาการถูกรุกล้ำอธิปไตย ปัญหาการจัดการภัยพิบัติที่ล้มเหลว ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากที่กำลังพังทลาย ปัญหาปากท้องประชาชน ปัญหาค่าครองชีพและคุณภาพชีวิต ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ไปจนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาเหล่านี้ยังแก้ไม่จบสิ้นเพราะผู้มีอำนาจไม่มีความเด็ดขาดและมีประโยชน์ทับซ้อน แต่พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนไทยทุกกลุ่ม ด้วยความเด็ดขาด ชัดเจน ทำได้จริง และไม่มีประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอน
“พรรครวมไทยสร้างชาติขอยืนยันว่าเราเด็ดขาดและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน แม้เราจะไม่ใช่พรรคใหญ่ในทางการเมืองเพราะเพิ่งเกิดมา 3-4 ปี …
วันนี้ (7 ธันวาคม) ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วย ชัชวาลล์ คงอุดม เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ คณะผู้บริหารพรรค รวมถึง สส. และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมกันแสดงพลังประกาศจุดยืน ‘เด็ดขาดแก้วิกฤต พลิกโฉมประเทศ’
พีระพันธุ์ได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ นโยบายสำคัญ และทิศทางการทำงานของพรรค โดยเน้นย้ำว่าประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤตในหลายด้าน นับตั้งแต่ปัญหาการถูกรุกล้ำอธิปไตย ปัญหาการจัดการภัยพิบัติที่ล้มเหลว ปัญหาเศรษฐกิจฐานรากที่กำลังพังทลาย ปัญหาปากท้องประชาชน ปัญหาค่าครองชีพและคุณภาพชีวิต ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ไปจนถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งที่ผ่านมาปัญหาเหล่านี้ยังแก้ไม่จบสิ้นเพราะผู้มีอำนาจไม่มีความเด็ดขาดและมีประโยชน์ทับซ้อน แต่พรรครวมไทยสร้างชาติพร้อมที่จะเข้ามาแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศและสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับคนไทยทุกกลุ่ม ด้วยความเด็ดขาด ชัดเจน ทำได้จริง และไม่มีประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอน
“พรรครวมไทยสร้างชาติขอยืนยันว่าเราเด็ดขาดและไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน แม้เราจะไม่ใช่พรรคใหญ่ในทางการเมืองเพราะเพิ่งเกิดมา 3-4 ปี แต่ถ้าวัดกันด้วยความเด็ดขาด ผลงาน ความเอาจริงเอาจัง และความขาวสะอาดของสมาชิกพรรค รวมไทยสร้างชาติคือพรรคการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศนี้” พีระพันธุ์กล่าว
พีระพันธุ์ได้หยิบยกวิกฤตของประเทศที่พรรครวมไทยสร้างชาติมุ่งเน้นแก้ไขด้วยความเด็ดขาดใน 6 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย การพิทักษ์รักษาเอกราชและดินแดนของไทยไม่ให้ถูกรุกล้ำ การกำจัดคนโกงและคนชั่วให้หมดไปจากแผ่นดิน การค้ำจุนเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคง การลดภาระค่าพลังงานให้ประชาชน การสร้างสังคมที่มีคุณภาพ และการสนับสนุนให้เกษตรกรสร้างรายได้ที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติยังมุ่ง ‘พลิกโฉมประเทศ’ ด้วยนโยบายที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงถึงโครงสร้างฐานราก ประกอบด้วย การคืนอำนาจให้ประชาชน การจัดสรรงบประมาณที่ตอบโจทย์ความต้องการของประชาชน ระบบการศึกษาแบบใหม่ และการสร้างงานอย่างทั่วถึง
“เราต้องพลิกโฉมประเทศด้วยการคืนอำนาจให้ประชาชน วันนี้อำนาจสูงสุดไม่ได้อยู่ที่ประชาชน แต่อยู่ที่ระบบราชการ จะทำมาหากินอะไรต้องขออนุญาตจำนวนมาก ต้องรื้อระบบราชการเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชนทำมาหากินได้ง่ายขึ้น ไม่ใช่ยอมให้ข้าราชการไม่กี่แสนคนยิ่งใหญ่กว่าคนไทยเกือบ 70 ล้านคน เรื่องงบประมาณแผ่นดินก็เช่นกัน ภาษีมาจากประชาชนแต่คนใช้คือนักการเมือง ข้าราชการ ที่ใช้ไม่ตรงกับความต้องการของประชาชน ถ้าผมมีอำนาจ ผมจะรื้อระบบงบประมาณใหม่ จัดสรรเพื่อตอบสนองปัญหาประชาชนเป็นอันดับแรก เหลือเท่าไรค่อยแบ่งให้กระทรวงต่างๆ ส่วนในเรื่องการศึกษา หลักสูตรต้องตอบสนองตลาดแรงงาน จบมาแล้วต้องมีงานทำ ต้องไม่ให้การเรียนเป็นภาระของพ่อแม่และเด็ก ระบบการศึกษาต้องเปิดโอกาสให้คนได้พิสูจน์ความสามารถด้วยตัวเอง ต้องให้เด็กเลือกเรียนในสิ่งที่อยากเรียน และจบมามีงานทำ” พีระพันธุ์กล่าว
พีระพันธุ์กล่าวเพิ่มเติมว่า พรรครวมไทยสร้างชาติมีนโยบายจ้างงานคนพิการและผู้สูงอายุที่ยังมีศักยภาพให้กลับมาทำงานเพื่อสังคม สำหรับเด็กจบใหม่ที่ไม่มีงานทำ รัฐต้องมีงานรองรับ เช่น การดูแลผู้ป่วยติดเตียงหรือชุมชน ส่วนเรื่องกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) สำหรับคนที่จบมาแล้วไม่มีงานทำ หรือมีงานทำแต่ต้องแบกรับภาระครอบครัว ไม่ควรไปไล่ฟ้องเพราะสุดท้ายก็ได้แค่กระดาษคำพิพากษาแต่ไม่ได้เงินคืน และยังทำลายอนาคตเด็กที่รัฐให้โอกาสทางการศึกษาเสียเอง ทางออกคือควรเปลี่ยนวิธี โดยให้คนกลุ่มนี้ทำงานให้รัฐหรือสังคมเพื่อ ‘ใช้หนี้ด้วยงาน’ แทน
“ตลอด 30 ปีที่อยู่ในวงการการเมือง ผมไม่จำเป็นต้องบอกว่าพูดแล้วทำ แต่ผมทำแล้วค่อยพูด และไม่ได้เข้ามาเพื่อสร้างภาพหรือชื่อเสียงส่วนตัว แต่เข้ามาเพื่อทำงาน และต้องการให้รวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมืองในใจของประชาชน ผมทำให้เห็นแล้วในช่วง 2 ปีที่ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ต่อสู้กับนายทุนพลังงานจนสามารถลดค่าไฟจากเกือบ 5 บาท เหลือ 3.94 บาท ทำให้เงินในกระเป๋าประชาชนเหลือมากขึ้นถึง 270,000 ล้านบาท และทำให้หนี้ของ กฟผ. ลดจาก 99,000 ล้านบาท เหลือ 40,000 กว่าบาท ในวันที่ผมออกจากตำแหน่ง” พีระพันธุ์กล่าว
พีระพันธุ์กล่าวว่า อีกไม่นานพรรคก็จะต้องเข้าสู่สนามเลือกตั้ง แต่พรรคการเมืองทุกพรรคไม่ใช่คู่แข่งหรือศัตรูของรวมไทยสร้างชาติ เพราะศัตรูของรวมไทยสร้างชาติคือปัญหาและวิกฤตของประเทศที่ต้องเอาชนะให้ได้ ขอให้ประชาชนเลือกพรรครวมไทยสร้างชาติทั้งประเทศ แล้วพรรคจะพิสูจน์ให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของหัวใจที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน