ลูกบิดประตู รถยนต์ ไม้แขวนเสื้อ แขนคนข้างๆ ราวบันได ผ้า ขนสัตว์เลี้ยง หรือกระทั่งมันฝรั่ง! หากคุณเคยสะดุ้งกับการสัมผัสสารพัดสิ่งของมากมายเหล่านี้จากการถูกไฟฟ้าสถิตช่วงหน้าหนาว เราคือเพื่อนนนนนนกัน
ไฟฟ้าสถิตเกิดจากการสะสมและถ่ายเทของประจุไฟฟ้าบนพื้นผิววัตถุที่ไม่สมดุล ขณะที่สภาพอากาศหนาวเย็นและแห้งขาดความชื้นที่จำเป็นต่อการสร้างสมดุลของไฟฟ้าสถิต ต่างจากอากาศอุ่นที่เก็บกักความชื้นได้มากกว่า นั่นคือเหตุผลที่ว่าอากาศแห้งและเย็นเปรียบเสมือนฉนวนนั่นเอง
แม้ว่าอาจไม่ได้เป็นอันตราย แต่ไฟฟ้าสถิตก็นำมาซึ่งความกังวลเล็กๆ และความเจ็บปวดนิดๆ ที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันในช่วงหน้าหนาว ลองนึกภาพว่ากว่าจะหยิบ จับ สัมผัส อะไรที่ไม่มั่นใจก็ต้องเสียวแล้วเสียวอีก แตะๆ จิ้มๆ จนแน่ใจว่าจะไม่มีการช็อตเกิดขึ้น
หนึ่งในกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการโดนแจ็กพอตมากที่สุดช่วงหน้าหนาวนี้ คงหนีไม่พ้นพนักงานออฟฟิศ เพราะสำนักงานนั้นเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้มากมายที่ต้องคอยหยิบจับ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า โลหะ ผ้าใยสังเคราะห์ ไหนจะเพื่อนร่วมงานที่ชอบเอาร่างกายมาใกล้ๆ
ในเมื่อมิอาจหลีกเลี่ยงโชคชะตาแห่งไฟฟ้าสถิตได้ แต่เหล่าพนักงานออฟฟิศจะมีเทคนิคเอ…
ลูกบิดประตู รถยนต์ ไม้แขวนเสื้อ แขนคนข้างๆ ราวบันได ผ้า ขนสัตว์เลี้ยง หรือกระทั่งมันฝรั่ง! หากคุณเคยสะดุ้งกับการสัมผัสสารพัดสิ่งของมากมายเหล่านี้จากการถูกไฟฟ้าสถิตช่วงหน้าหนาว เราคือเพื่อนนนนนนกัน
ไฟฟ้าสถิตเกิดจากการสะสมและถ่ายเทของประจุไฟฟ้าบนพื้นผิววัตถุที่ไม่สมดุล ขณะที่สภาพอากาศหนาวเย็นและแห้งขาดความชื้นที่จำเป็นต่อการสร้างสมดุลของไฟฟ้าสถิต ต่างจากอากาศอุ่นที่เก็บกักความชื้นได้มากกว่า นั่นคือเหตุผลที่ว่าอากาศแห้งและเย็นเปรียบเสมือนฉนวนนั่นเอง
แม้ว่าอาจไม่ได้เป็นอันตราย แต่ไฟฟ้าสถิตก็นำมาซึ่งความกังวลเล็กๆ และความเจ็บปวดนิดๆ ที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันในช่วงหน้าหนาว ลองนึกภาพว่ากว่าจะหยิบ จับ สัมผัส อะไรที่ไม่มั่นใจก็ต้องเสียวแล้วเสียวอีก แตะๆ จิ้มๆ จนแน่ใจว่าจะไม่มีการช็อตเกิดขึ้น
หนึ่งในกลุ่มคนที่เสี่ยงต่อการโดนแจ็กพอตมากที่สุดช่วงหน้าหนาวนี้ คงหนีไม่พ้นพนักงานออฟฟิศ เพราะสำนักงานนั้นเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้มากมายที่ต้องคอยหยิบจับ เช่น อุปกรณ์ไฟฟ้า โลหะ ผ้าใยสังเคราะห์ ไหนจะเพื่อนร่วมงานที่ชอบเอาร่างกายมาใกล้ๆ
ในเมื่อมิอาจหลีกเลี่ยงโชคชะตาแห่งไฟฟ้าสถิตได้ แต่เหล่าพนักงานออฟฟิศจะมีเทคนิคเอาตัวรอดเล็กๆ น้อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงจากอาการ ‘เปรี๊ยะ’ นี้ได้อย่างไรบ้าง
เลือกผ้าผิดชีวิตติดไฟ(ฟ้า)

ก่อนจะไปออฟฟิศ ก็ต้องมีเครื่องแต่งกาย แต่ช่วงหน้าหนาวอาจต้องคิดเยอะเล็กน้อย เพราะมันเกี่ยวข้องกับไฟฟ้าสถิต ชุดบางชนิดโดยเฉพาะวัสดุที่เป็นขนสัตว์ ผ้าฟลีซ หรือไนลอน ทำให้เกิดการเสียดสีสูง ซึ่งเป็นการสะสมประจุไฟฟ้า จึงควรหลีกเลี่ยง และเปลี่ยนมาใส่ผ้าฝ้าย ผ้าเนื้อเรียบ หรือเสื้อที่ระบายอากาศดีจะดีกว่า เนื่องจากผ้าธรรมชาติจะไม่สะสมประจุ ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตได้ต่ำกว่า เว้นแต่คุณจะเป็นคนขี้แกล้ง ก็ใส่เสื้อผ้าวัสดุแบบสะสมประจุไปเลย กะว่าพอเพื่อนมาแตะก็ เปรี๊ยะ ไปเลยหนึ่งที ฮาๆ
ไอเทมลับป้องกันสายไฟ(ฟ้า)

ทุกออฟฟิศมักต้องมีเพื่อนร่วมงานประเภท ‘หนาวไว้ก่อนพ่อสอนไว้’ คือจะหน้าหนาวยังไงกูก็ขอเปิดแอร์ฉ่ำๆ ไว้ก่อน ซึ่งเมื่อแอร์แรงบวกกับอากาศแห้ง ผิวเราจึงกลายเป็นฉนวนชั้นดี เนื่องจากผิวแห้งจะมีประจุสะสมง่าย ครั้นจะไปบอกเพื่อนให้ลดแอร์ก็จะโดนหาว่าขี้หนาวเกินเหตุ ในสถานการณ์เช่นนี้ ไอเทมตำนานอย่างโลชั่นช่วยได้ เพราะน้ำในโลชั่นจะช่วยกระจายประจุได้ทันทีเมื่อทาบนผิว เมื่อผิวชุ่มชื้น เส้นทางระบายประจุดีขึ้น ไฟฟ้าก็จะไม่สะสม แต่มีเคล็ดลับเล็กน้อย คือควรเลี่ยงใช้โลชั่นสูตรแอลกอฮอล์สูง เพราะจะทำให้ผิวแห้งกว่าเดิม จึงควรใช้โลชั่นที่มีน้ำมันเล็กน้อยเพื่อเคลือบผิวก็พอ ทีนี้มึงจะเปิดแอร์อุณหภูมิติดลบก็มาได้เลย
ล้างมือเพื่อรีเซ็ตไฟ(ฟ้า)

อย่าดูถูกหลักการง่ายๆ อย่างการล้างมือ เพราะน้ำคือตัวนำไฟฟ้า เมื่อเราล้างมือ ก็เหมือนเป็นการล้างประจุที่ติดผิวให้ไหลออกไป เหมือนเป็นการรีเซ็ตไฟฟ้าอีกครั้ง ดังนั้นหน้าหนาวนี้จะอนามัยขึ้นสักหน่อยก็ไม่เป็นไร หมั่นล้างมือบ่อยๆ ก่อนจะทำอะไรที่อาจมีการสัมผัสเกิดขึ้น เช่น ก่อนและหลังประชุม ก่อนแตะลูกบิด หรือเวลาที่สัมผัสเสื้อผ้ามากๆ ใครจะแซวเราอนามัยจัดก็ไม่เป็นไร ดีกว่าโดนไฟฟ้าสถิตให้สะดุ้งก็แล้วกัน แถมยังเป็นการล้างสิ่งสกปรกสะสมได้ด้วย
ระวังสิ่งของต้องสงสัยจะมีไฟ(ฟ้า)

****ไฟฟ้าสถิตจะสะสมบนร่างกายเมื่อเราเดิน ลากเท้า นั่งบนเก้าอี้ผ้า หรือถูเสื้อผ้ากับเบาะ แล้วยิ่งต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องจับหรือสัมผัสสิ่งของบ่อยๆ เมื่อปัจจัยทั้งหมดเชื่อมต่อกันมา เมื่อเราเอามือไปแตะสิ่งของบางอย่าง ประจุก็จะวิ่งเข้าสู่เราพรวดเดียว เปรี๊ยะ! ดังนั้น หลักการคือพยายามถ่ายเทประจุออกไปทีละน้อยผ่านวัสดุโลหะ หรือพวกเครื่องใช้สำนักงานก่อนจะไปแตะสิ่งของต้องสงสัยบางอย่าง ไฟฟ้าจะได้ออกจากตัวเราอย่างนุ่มนวลกว่าและลดความเสี่ยงของการช็อตเจ็บ เช่น ก่อนจับลูกบิดประตูก็แตะด้านโลหะของโต๊ะหรือชั้นวางก่อน
เจ้าคือทายาทคนต่อไฟ(ฟ้า)

แน่นอนว่าการอยู่ร่วมกับเพื่อนในออฟฟิศ การอู้งานแล้วมานั่งคุยนั่งเล่นกันเป็นสิ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นก็จะนำมาซึ่งการสัมผัสร่างกายกันโดยไม่รู้ตัว อันมีความเสี่ยงจะเกิดอาการเปรี๊ยะ! ขึ้นได้ เพราะตามหลักการแล้ว การสัมผัสพื้นที่เยอะ ก็จะยิ่งโดนช็อตแรง ขณะที่การสัมผัสพื้นที่เล็กกว่า ไฟ(ฟ้า)ก็จะออกน้อยกว่า ดังนั้นหากนึกได้ตอนไหน ก่อนจะสัมผัสเพื่อน ให้ใช้วิธี ‘จิ้มๆ’ หรือ ‘แตะๆ’ กันเบาๆ ในพื้นที่จำกัดก่อน เช่น แขน ก่อนจะจับหรือกอด เพราะการลดพื้นที่สัมผัส ก็เท่ากับการจำกัดประจุไฟฟ้าให้ออกน้อย ลดความเสี่ยงต่อการช็อตสะดุ้ง
อย่างไรเสีย ไฟฟ้าสถิตก็เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ในช่วงหน้าหนาวที่อากาศแห้ง แม้มันจะเวียนมาให้สะดุ้งทุกปี แต่เราก็หาวิธีเพื่อลดความเสี่ยงเหล่านั้นได้
ลองคิดดีๆ ความจริงแล้วไฟฟ้าสถิตก็แฝงปรัชญาบางอย่างไว้ คือจะรวยดีมีจน เราทุกคนล้วนถูกไฟฟ้าสถิต